ประมูลพระเครื่อง : พระบูชา, พระกริ่ง-รูปหล่อ, เหรียญปั๊ม-เหรียญหล่อ, เนื้อดิน, เนื้อชิน, เนื้อผง-ว่าน, พระปิดตา, พระสมเด็จ, จตุคามรามเทพ, เครื่องรางของขลัง
โพสต์เมื่อ : 2009-07-13, 17:51
# ความคิดเห็นที่ : 1
โพสต์เมื่อ : 2005-07-09, 14:47
ผม Search ใน Google ถึงคำว่า พระพุทธเจ้าในอดีตนะครับ ก็ได้มาหลายเว็บ ยกตัวอย่างเว็บข้างล่างนี้ก็แล้วกันครับ สรุปว่า พระพุทธเจ้าในอดีตมีมาแล้ว หาที่สุดมิได้ครับ
ตัดส่วนหนึ่งของข้อความในเว็บมาดังข้างล่างนี้นะครับ
ในพระอนาคตวงศ์
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลกทั้งหลาย
วันหนึ่ง พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ได้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงการอุบัติตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสตอบแก่พระสารีบุตรว่า
"ดูก่อนพระธรรมเสนาบดีสารีบุตร จะมีสรรพสัตว์ที่บังเกิดในโลก ได้เป็นพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานเมื่อสิ้นอายุเป็นแน่ สัตว์เหล่าอื่นทำบาปแล้วจุติจากอัตภาพเป็นมนุษย์นี้แล้ว บังเกิดในอบายภูมิทั้ง 4 จุติจากอัตภาพนั้นท่องเที่ยวไปมา บำเพ็ญบารมีถึงความเป็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ จักถึงนิพพาน ดูก่อน พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรผู้เจริญ พระพุทธเจ้าในอดีต มีมาแล้วหาที่สุดมิได้ เราไม่อาจกำหนดคำนวณพระพุทธเจ้าได้ ดูก่อนพระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ในอนาคต พระพุทธเจ้า 10 พระองค์จักเสด็จอุบัติดังนี้แล"
พระสารีบุตร จึงทูลอาราธนาพระบรมศาสดาว่า " ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ขอพระองค์จงทรงแสดง พระพุทธเจ้า 10 พระองค์ แก่พุทธบริษัท 4
เถิด "
พระบรมศาสดาจึงทรงแสดง ทสโพธิสัตตา แก่พุทธบริษัท ดังนี้
1. พระศรีอริยเมตไตรยบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ....(ตัด)...
เมื่อตรัสแสดงพุทธพยากรณ์ จบจึงตรัส พระคาถาธรรมแก่พุทธบริษัท 4
ว่า
" เมื่อสัตบุรุษให้ทานที่บุคคลพึงให้ได้ยาก
การกระทำกรรมที่บุคคลพึงกระทำได้ยาก
อสัตบุรุษทั้งหลายย่อมไม่ทำตามที่สัตบุรุษ
ดำเนินนั้นๆ ธรรมของสัตบุรุษทั้งหลายอัน
อสัตบุรุษดำเนินตามได้ยาก" ดังนี้
จบอุเทศที่ 1 ด้วยพระพุทธพยากรณ์ดังนี้แล
2. พระรามพุทธเจ้า .....(ตัด)......
3. พระธรรมราชาพุทธเจ้า .....(ตัด)......
# ความคิดเห็นที่ : 2
โพสต์เมื่อ : 2005-07-10, 19:45
ตอนนั้นหมดเวลาพอดี เลยไม่ได้ขยายความประกอบในตอนแรก ก็มาขอขยายความในตอนนี้เลยนะครับ
จริงๆ แล้ว พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ หรือ 28 พระองค์ก็ถูกทั้งนั้นแหละครับ (แต่ 25 พระองค์ผมก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน) ขึ้นกับว่า จะอ้างอิงเวลาตอนไหน
พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ หมายความว่า ในกัปนี้ หรือ รอบเวลาโลกเกิดดับรอบนี้ จะมีพระพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น 5 พระองค์ (คือ โลกเราเกิดดับมานับรอบไม่ถ้วนแล้ว หรือ พูดอีกอย่างหนึ่ง เวลาในขณะนี้ ผ่านมานับกัปไม่ถ้วนแล้ว กัปหนึ่ง คือ ช่วงเวลาที่โลกเกิดดับรอบหนึ่ง) ตอนนี้มาเกิดแล้ว 4 พระองค์ พระพุทธเจ้าของเราเป็นพระองค์ที่ 4 และองค์ต่อไป ที่จะมาบังเกิดเป็นองค์ที่ 5 คือ พระศรีอาริยเมตไตยครับ
ส่วนคำว่าพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ นั้นนับจากช่วงเวลาย้อนหลังไปเมื่อ 4 อสงไขยกัป และเศษอีกแสนกัปที่แล้วครับ คือ เมื่อ 4 อสงไขยกัปที่แล้ว (เศษแสนกัป) พระพุทธเจ้าของเรา ยังสร้างบารมีอยู่ พระองค์เกิดเป็นดาบส ชื่อสุเมธ แล้วได้รับการพยากรณ์ (รับรอง) จากพระทีปังกรพุทธเจ้าว่า ท่านสุเมธดาบสนี้ ต่อไปจะได้เป็นพระพุทธเจ้า องค์หนึ่งนามว่า โคดม ในอนาคตแน่นอน หลังจากนั้น พระโพธิสัตว์สุเมธ ก็สร้างบารมี ไปเกิดเป็นโน่นนี่มากมาย จนถึงปัจจุบัน
ระยะเวลาตั้งแต่นั้น มาจนถึงตอนนี้ พระโพธิสัตว์ของเรา พบเจอพระพุทธเจ้ามา 28 พระองค์ครับ ก่อนที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
# ความคิดเห็นที่ : 3
โพสต์เมื่อ : 2005-07-10, 20:51
นิพพาน และ ปรินิพพาน ให้สังเกตุจากบทความให้ยอมรับนะครับ ว่า ไม่เหมือนกัน
ในบทความข้างต้น(ผู้แปลเขียนเป็นภาษาแบบราชาศัพท์)ได้แสดงให้เห็นว่าคำว่า
-พระพุทธเจ้า ได้ถูกใช้หรือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ พุทธกาล มาแล้ว
-พระพุทธเจ้า เป็นผู้ ตรัสรู้ และ ปรินิพพาน
ดังนั้น คำว่าพระพุทธเจ้า ในบทความข้างต้น จึงไม่แปลที่จำนวนพระพุทธเจ้าจะมี
จำนวนไม่แน่นนอน และจะมีจำนวน มากขึ้นๆ เลยๆ เหตุเพราะพระธรรมของ
พระพุทธเจ้าองค์ปฐมศาสนา ได้ชี้แนะวิธีในทุกคนเข้าถึงโอกาสการเป็นผู้ตรัสรู้
และปรินิพพาน (เป็นพระพุทธเจ้า)
***-ตรัสรู้ สำหรับผม ผู้ใดที่สามารถไปถึงตรัสรู้ ถือว่าท่าน สำเร็จ หรือ ผู้สำเร็จอรหันต์
รู้และเข้าถึง พลังธรรมชาติ จึงมีอิทธิฤทธิ์
***-ปรินิพพาน คือผู้ที่ตรัสรู้ และเห็นความทองแท้และมุ่งมั้น ที่จะหลุดพ้นจากการเวรว่าย
ตายเกิด ไม่หลงอยู่กับการอวดพลัง อิทธิฤทธิ์ที่ต้นมี หรือมีหวงจนไม่สามารถยังใจ
หยุดเหตุแห่งการตายได้ (อาจเป็นเพราะบุญยังสร้างไม่ถึง สำหรับความคิดของใครบางคน)
จนได้แค่ นิพพาน ครับ
อันจะพบเห็นได้จากปรมาจารย์ต่างๆ ที่ได้สร้าง วัตถุบูชาไว้ให้ลูกหลานได้ประจักษ์เป็น
ต้นเหตุให้กลับใจ เริ่มศึกษาธรรมะ และสัจจะธรรมของพระพุทธเจ้า
***** สำหรับผม พระพุทธเจ้า มีองค์เดียวครับ (ผมไม่ทราบว่าจะใช้คนอื่นใดไปกล่าวถึงท่าน)
พระองค์ทรง ตรัส ,ปรินิพพาน ,และที่สำคัญที่สุดคือ ท่านได้ประธานพร คือพระธรรม
หรือพระไตรปิดก ให้แก่ชนรุ่นหลัง ได้เข้าถึงการ ตรัสรู้ เยี่ยงท่าน ให้สมเป็นชนในพุทธศาสนา
องค์อื่นๆ ที่ตรัสรู้และปรินิพพาน อาจทรงเผยแพร่ธรรมให้ศิษย์แต่เผยแพร่ไม่สำเร็จ
เหมือนพระพุทธเจ้าองค์ปฐมศาสนาครับ จึงขาดคุณสมบัติในความสามารถและเมตตา
โปรดสัตว์โลกอย่างองค์ของพวกเราครับ
ยังมีคำกล่าวมากกว่านี้ ที่เคยคิดวิเคาะห์ไว้ ไว้จะตั้งกระทู้ข้อต่อไป รับรองครับเรื่อง
เดียวกันทั้งนั้น จะได้ให้พี่ๆ นำสัจจะธรรม มาแลกเปลี่ยนกัน เพื่อทำตัวให้สมกับเป็นชนใน
ศาสนา พุทธ ครับ (ใช้ปัญญานะ) พิมพ์สด ไม่ได้ตรวจ มีคำผิดขออภัยด้วยครับ!!!!!
# ความคิดเห็นที่ : 4
โพสต์เมื่อ : 2005-07-11, 11:58
ครับความเห็นว่า พระพุทธเจ้า มีเพียงองค์เดียวก็เป็นอีกทัศนะหนึ่ง ครับ เพียงแต่ต้องมาต่อ 2 ประการว่า
1. ศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์นี้ ย่อมไม่คงอยู่ตลอดไป ย่อมเป็นตามกฏ ไม่เที่ยง
2. ตำแหน่งของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ตำแหน่งผูกขาด เหมือนกับศาสดาของศาสนาอื่นๆ แต่ใครก็ตามที่ตั้งความปรารถนา (เช่นผม) แล้วสั่งสมบุญบารมี ก็มีสิทธิ์เป็นพระพุทธเจ้าได้ในอนาคต นี่คือ เสน่ห์ของพระพุทธศาสนาครับ
# ความคิดเห็นที่ : 5
โพสต์เมื่อ : 2005-07-11, 21:37
ความหวังเป็นเรื่องดี แต่มันโชว์ถูกความต้องการ (กีเลส)ครับ แบบนี้นิพพานยากครับ
ผมรับรองให้ว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้มีความคิดหรือนโยบายตามที่คุณพี่คิดตามใครก็ไม่ทราบ
การเกิด ตั้งอยู่ ดับไป เป็นไปตามกฎ ท่านเองก็ทราบดี ดังนั้นความหวังที่จะให้คงอยู่ตลอดไป
จึงเป็นความหวังที่ไม่มีวันทำสำเร็จ เท่าที่ทราบ พระพุทธเจ้าของเราก็ทรงตรัสถึงวันสิ้น
ของศาสนาพุทธเหมือนกันใช้ไหมครับ
ทั้งหมดพี่หัดฝัน คงพอจะยอมรับได้นะครับว่า คำว่าพระพุทธเจ้า ผมขอสงวนสิทธิ์ให้องค์ปฐม
ศาสนาผู้ทรงให้พระธรรม และ กำหนดการเผยแพร่จนมีผู้นับถือสัทธะจนเป็นหนึ่งในศาสนา
ประจำโลกในปัจจุบัน ส่วนองค์อื่นๆ ผู้ของเรียกท่านว่า พระอรหัสต์ผู้บรรลุถึงปรินิพพาน
ก็แล้วกันนะครับ ซึ่งจะมีอยู่กี่คน นั้น ยากที่จะรู้ครับ เพราะท่านผู้บรรลุคงไม่ต้องการให้ใคร
มาบันหยัดเขียนประวัติหรือเข้าทะเบียนว่าเป็นหนึ่งในผู้ปรินิพพาน จริงไหมครับ
พี่หัดฝันคิดให้ดีซิครับว่า พระพุทธเจ้า ทรงตั้งพุทธศาสนาไว้เพี่ออะไร ?
รู้คำตอบ แนะนำด้วยนะครับ ดูเหมือนตอบง่าย หากไม่ใช้ปัญญา ผมก็ไม่ยอมรับครับ?
ข้อแตกต่างเดียวที่ ศาสนาพุทธต่างจากศาสนาอื่น และเป็นที่ยอมรับของผู้มีปัญญาทั่วโลก
เช่น ไอสตาร์(ท่านเคยกล่าวไว้ว่า หากเลือกนับถือศาสนาได้ท่านจะเลือกพุทธครับ)
คือ ให้หาเหตุแห่งความเชื่อ ก่อนที่จะเชื่อ เรียบง่าย แต่กินใจความครับ!!!!!
(Less is more)
# ความคิดเห็นที่ : 6
โพสต์เมื่อ : 2005-07-12, 16:15
ผมเขียนสั้นไปหน่อย ความหมายในวาจาของผมมีว่า เมื่อศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์นี้ไม่คงอยู่ตลอดไป ย่อมมีพระพุทธเจ้งองค์ใหม่มาตรัสรู้ในอนาคต ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก และเช่นเดียวกัน ย่อมเป็นการยืนยันว่ามีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้นับพระองค์ไม่ถ้วนในอดีตอย่างแน่นอน มิฉะนั้น คุณย่อมต้องไม่เคยได้ยินคำว่า พระพุทธเจ้า 5 องค์ 27 องค์ เป็นต้นครับ
คำตอบว่า พระพุทธเจ้าตั้งพระพุทธศาสนาไว้เพื่ออะไร ก็เพราะพระองค์ทรงรู้นะสิครับว่า ชีวิตคนเรามีแต่ความทุกข์ พระองค์จึงแสวงหาหนทางพ้นทุกข์ เมื่อเจอแล้ว ก็บอกต่อไปยังคนอื่นๆ ต่อไป เรียบง่ายแบบนี้นั่นแหละครับ
แต่เพียงแค่เรียบง่ายแบบนี้ หรือ จะยุ่งยากซับซ้อนก็ตาม ศาสนาพุทธจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลย ถ้าหนทางพ้นทุกข์ของพระองค์ ไม่มีใครรู้ตามได้จริง แต่เพราะหนทางพ้นทุกข์ของพระองค์ ผู้ใดลงมือปฏิบัติแล้ว รู้ตามเห็นตามได้จริง จึงบอกต่อๆ กันไป ศาสนาพุทธจึงเกิดขึ้นมาไงล่ะครับ
เรียบง่ายก็สำคัญ แต่จะสำคัญกว่านั้น คือ ต้องทำตามแล้วได้ผล ครับ
# ความคิดเห็นที่ : 7
# ความคิดเห็นที่ : 8
# ความคิดเห็นที่ : 9
# ความคิดเห็นที่ : 10
# ความคิดเห็นที่ : 11
# ความคิดเห็นที่ : 13
# ความคิดเห็นที่ : 14
# ความคิดเห็นที่ : 15